“แน็ก ชาลี” ตอบแล้ว สถานะ “เก๋ไก๋ สไลเดอร์” หลังเอฟซีลุ้นคู่จริง ชมน่ารักที่สุด
“แน็ก ชาลี” ชัดเจน ประกาศไม่โสดแล้ว เผยเหตุผลไม่ลงรูปคู่ “เก๋ไก๋ สไลเดอร์”
เป็นอีกหนึ่งคู่จิ้นที่กลายมาเป็นคู่จริงอีกคู่ สำหรับนักแสดงหนุ่มสายติสท์ “แน็ก – ชาลี ไตรรัตน์” กับยูทูบเบอร์ชื่อดัง “เก๋ไก๋ สไลเดอร์” หรือ “เก๋ไก๋ – ณัฐธิชา นามวงษ์” ที่แกรนด์โอเพนนิ่งชัดเจนแล้วว่ากำลังคบหาดูใจกัน ล่าสุดได้เจอฝ่ายชายก็เลยจ่อไมค์ถามตรงๆ ชัดๆ ถึงความสัมพันธ์กับฝ่ายหญิง เจ้าตัวก็ตอบแบบไม่มีกั๊กมาว่า
วันนี้เปลี่ยนลุค?
“ช่วงนี้ขี้เก๊กครับ (หัวเราะ) เพราะคนชมเยอะขึ้น หล่อเพราะร้อนเงินเป็นเรื่องจริงนะ (ใช้ความหล่อเป็นประโยชน์?) เราแก่ขึ้นนั่นแหละ อายุ30 เราเลยลองอีกครั้งว่าจะลดน้ำหนักให้ได้ อยากลองดูว่าจะทำได้ไหม เพราะว่าลองทำมา 6-7ปีแล้วไม่สำเร็จ ตอนที่ลดได้ก็ลงไป 30 โล ตอนนี้ขึ้นมาอีกแล้ว ผมอยากดูแลตัวเองมากขึ้น อายุเท่านี้แล้วถ้าปล่อยตัวอีกจะกลับมายาก”
จุดไหนที่ทำให้รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนตัวเอง?
“เพราะเงินในธนาคารหมด พอเห็นจำนวนเงินว่าจะไม่เหลือแล้วนะ ยุคนี้ต้องยอมหนื่อยดูแลตัวเองหน่อย ที่จะกลับมาทำงานได้ เรื่องจริงนะครับ ไม่ใช่มุข (หัวเราะ) คือเมื่อก่อนผมเห็นเวลาที่นักแสดงลดน้ำหนักเยอะ มีคอมเมนต์ว่าเสพติดความผอม เราก็ไม่เคยเป็น จนตอนที่ลดน้ำหนักก็ชั่งทุกวัน ก็ข้าใจแล้วว่าทำไมเขาอยากลดลงเรื่อยๆ ก็งดของหวาน กินข้าวน้อยลง เมื่อก่อนผมยาวก็เอาผมปิดหน้า น้ำหนักขึ้นไปแตะ 80 กิโล จนรู้สึกว่าไม่ได้แล้วเลยลดลงมา ใช้เวลาเดือนเดียวลงเกือบ 20 กิโล สองเดือนลงแตะเกือบ 30 กิโล ตอนนั้นต้องมีที่ชั่งน้ำหนักทุกชั้นของบ้านเลย พอเริ่มรีวิวของกินก็กลับมาหยุดกินไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) ตอนที่น้ำหนักน้อยรู้สึกว่าสุขภาพดีมาก ร่างกายแข็งแรงกว่าเมื่อก่อน พอเห็นการเปลี่ยนแปลงคนก็ชม ตอนผมยาวก็อยากตัดผมนะ เมื่อก่อนไม่ยอมตัดผมนะ ตอนหลังรู้ว่าเขาจะให้เงิน ก็แบบเมื่อไหร่จะตัดๆ ชีวิตนี้ขับเคลื่อนด้วยเงินจริงๆ พอตัดผมปุ๊ปเงินเข้าบัญชีก็มีแรงดูแลตัวเอง”
ตอนนี้คือคลั่งรักเลยใช่ไหม?
“ไม่ได้คลั่งขนาดนั้น ผมเป็นคนจริงจังในความรัก ให้ทุกวันสำคัญหมด อาจจะไม่ได้ดูหวือหวา หรือคลั่งขนาดนั้น”
รักครั้งนี้เริ่มต้นจากอะไร?
“เริ่มจากตัวผมรู้สึกว่าเราก็แก่แล้ว เรามีโอกาสได้เจอ ได้คุยกันอีก ก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ดีนะ แต่ก่อนเราจะติดว่าชอบอยู่คนเดียวมาก ไม่ได้คุยกับใคร แต่พอเอาจริงก็รู้สึกว่ามีมันก็รู้สึกดีกว่านะ มันมีความสุขดี”
หาผู้หญิงที่เข้ากับเรายาก เขาเข้ากับเรายังไงบ้าง?
“เอาจริงๆ เราสองคนไม่ได้เข้ากันได้เลยนะ ผมรู้สึกว่าแต่ก่อน ทุกคนจะพูดว่าคนสองคนต้องมีอะไรที่คล้ายกัน มันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ แต่ผมคิดว่าพอมาเจอจังหวะชีวิตจริงๆ มันไม่ใช่เลย ถ้าตามความรู้สึกที่เราได้คุยกันนะ ไม่ได้มีอะไรคล้ายกันเลย ถามว่าประทับใจอะไรเขา ก็คงเป็นคนที่นิสัยดี น่ารักมาก”
จีบเขายังไง?
“ผมรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ ตอนหลังเราทำงานใช่ไหม แล้วก็ได้คุย แล้วก็ไม่ได้คุย วันนั้นคือผมไม่ได้เปิดตัวอะไรนะ แต่เราก็ตอบตามจริง เพราะสถานะเราก็ไม่ได้มาถามขอกันแล้ว ผมก็โตแล้ว แล้วผมก็ไม่ได้มุ้งมิ้ง รู้สึกเขินนะ ถ้าต้องมานั่งถามว่าเป็นแฟนกันไหม สำหรับผมมันเกินจุดนั้นแล้ว แล้วเราก็ไม่ได้คุยกับใครเลย คุยอยู่คนเดียว เลยรู้สึกว่าถึงมันไม่เคยตกลงว่าคบกันหรือเป็นแฟนกัน แต่สำหรับผมมันก็เป็นแฟนกันแล้ว”
ทำไมกับคนนี้เราถึงเปิดเผย?
“คือช่วงนี้ตัวผมก็คุยกันแบบจริงๆ แล้วคนก็ถามเยอะมาก เราก็ไม่รู้จะตอบยังไง เราก็ตอบตามจริง คือผมอาจจะไม่ได้หวานเหมือนคู่อื่น หรือทำอะไรให้มันดูสวีต ตัวผมไม่ค่อยได้ลงอะไรเยอะแยะมากมาย แล้วเราคุยอยู่คนเดียว มันก็ไม่ต่างอะไรจากแฟนสำหรับผม”
แคปชั่นที่ลงก็หวานมาก?
“อันนั้นเป็นสไตล์เขา ที่เขาชอบลงน่ารักๆ คือเขาเป็นคนที่ชอบเมนต์อะไรที่ดูน่ารักๆ อยู่แล้ว แต่ตัวผมอาจจะไม่ค่อยได้พิมพ์หรือเมนต์อะไรแนวนั้น มันก็คงเป็นอะไรที่ทำให้แฟนๆ หลายคนได้อ่านแล้วก็ยิ้มไปด้วย ก็น่ารักดีครับ
เราจะหล่อแบบนี้ไปตลอดเลยไหม?
“ไม่ๆ ผมว่าตัวผมอาจจะสภาพนี้ได้ไม่นาน ตัวเราต้องมีความตลกไปด้วย เพราะมันคือชีวิตประจำวันของเรา ที่เราเก๊กหล่อไม่ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็อาจจะมีสลับๆ กันบ้าง (เขามีขอให้เราอยู่ในสภาพหล่อๆ ไปนานๆ ไหม?) ก็มีบ้าง บอกพี่นิ่งๆ หน่อย แต่ตัวผมก็นิ่งได้ไม่นานหรอก แต่ชีวิตผมถ้าช่วงจริงจังก็จริงจังนะ เวลาตลกก็ตลก เวลาเครียดบ้างก็มีครับ”
แล้วกับคนนี้จริงจังไหม?
“จริงจังๆ จริงจังอยู่แล้ว (รักไหม?) รักๆ”
เราอยากพาเข้ามาในโลกของเราไหม?
“มันแปลกมากตรงที่ว่า เราอาจจะไม่ได้มาอยู่โลกเดียวกันมาก เพราะว่าเราความเห็นไม่ตรงกันหลายอย่าง สิ่งนี้มันแปลกดี ที่รู้สึกว่ามันทำให้เรายังคุยกันได้อยู่ สำหรับผมก็คือเรื่องนี้แหละ ที่เราปรับความเข้าใจกันไม่ได้สักที คุยกันไม่ได้ เถียงกันตลอด มันเลยอยู่กันนาน มันแปลกดี มันไม่เหมือนคู่อื่นนะผมว่า เรื่องงานบางทีผมอยากทำนะ แต่ด้วยความคิดเราอาจจะยังไม่ได้ตรงกันร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็เป็นคนที่มีหัวคิดเก่งมากๆ คนหนึ่ง เขาชอบคิดงานเอง เราก็ชอบคิดงานเองเหมือนกัน พอมาอยู่ด้วยกัน มันเลยยังร่วมงานกันไม่ได้ เราเลยรู้สึกว่าถ้าจะลง เราลงอะไรที่มันเป็นธรรมชาติ น่ารักๆ หรือสิ่งที่เราชอบคล้ายกัน มันจะมีเรื่องเพลง ที่เราชอบการร้องเพลง ชอบดนตรี ก็อาจจะให้คนได้เห็นมุมนี้มากหน่อย”
งานคู่มีติดต่อเข้ามาไหม?
“มีๆ ผมว่าถ้าวันหนึ่งเราคุยกันรู้เรื่องขึ้น แบบยอมคนละครึ่ง ก็อาจจะเห็นงานที่มากขึ้น แต่ผมว่าการทำงานที่ดีของเรา ก็อาจจะเป็นงานเกี่ยวกับด้านเพลง ด้านดนตรี ตลกๆ”
พาเขามารู้จักสัตว์ของเราไหม?
“ไม่ๆ ผมรู้สึกว่าสัตว์เลี้ยงแปลกๆ เราก็ต้องดูแลเอง แต่ละคนไม่ได้ชอบเหมือนกันหมดครับ อยู่ดีๆ ผมจะอุ้มตัวเหี้ยไปเซอร์ไพรส์เขาเนี่ย มันไม่ได้แน่นอน ถ้าตัวแปลกมากจริงๆ จะไม่ได้แนะนำให้ใครรู้จักครับ”
มุมโรแมนติกอยู่ตรงไหน?
“มุมโรแมนติกสำหรับผมไม่ค่อยมี ผมมีความสุขที่มันเป็นแบบนี้ เหมือนมันเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แล้วมันใช่เวลานาน ถึงสถานะตัวผมจะไม่ขอกัน ไม่ให้กัน ในช่วงเวลาที่แยกย้าย ในช่วงเวลาที่กลับมา คือตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เราคุยกัน มันก็มีความสุขที่เราเป็นอย่างนี้กันครับ”
แล้วมันใช้เวลานาน ถึงสถานะตัวผมจะไม่ขอกัน ไม่ให้กัน?
“มีช่วงเวลาที่แยกย้าย มีช่วงเวลาที่กลับมา คือตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เราคุยกันมันก็มีความสุขที่เราเป็นแบบนี้กัน”
คุยกันนานหรือยัง?
“โห จริงๆ มีช่วงหนึ่งผมไปจีบหลายรอบอยู่ จนตอนหลังเรารู้สึกว่าต่างคนต่างไม่ได้คุยกับใคร แล้วเราก็ได้มีโอกาสได้คุยกันมันเลยรู้สึกว่ามันดีกว่าไม่ได้คุยกัน”
ที่บอกจีบมาหลายๆ รอบ เหนื่อยไหม?
“ไม่เหนื่อยหรอก เหนื่อยตรงที่เถียงกันมากกว่า (หัวเราะ)”
ทำไมอยู่ดีๆ ถึงคลิกกัน?
“ไม่มีครับ เรายังไม่ได้คลิ๊กกันอะไรขนาดนั้น”
แล้วที่บอกเรื่องวันที่ 12 สิงหาคมเป็นแฟนกัน?
“ไม่ใช่ๆ ที่เขาเล่นมุข 12 สิงหาคม ตัวผมก็ไม่ได้ให้ ผมรู้สึกว่าวันนั้นเป็นวันของครอบครัว ตัวผมอยากมองว่าเออ 13 ก็ได้ (หัวเราะ) ถ้าจะคบ ตัวเราไม่จำเป็นต้องระบุวันขนาดนั้น แค่ว่าคุยกันก็มีความสุขก็โอเคแล้ว เขาเป็นคนน่ารักๆ ชอบพิมพ์อะไรน่ารักๆ”
ทำไมถึงจีบคนนี้เขามีอะไรถึงรู้สึกอยากเป็นแฟน?
“ผมว่าน่ารัก แล้วก็นิสัยดีเขาชอบร้องเพลงด้วย ชอบทำดนตรี ผมเป็นคนชอบเวลาเขาร้องเพลงมากๆ เพราะเขาร้องเพลงเพราะมากก็อยากให้หลายคนได้เห็นด้านเขาร้องเพลง เก่งมาก”
คิดว่าอะไรในตัวเราที่เขายอมเป็นแฟน?
“ไม่มี ผมหล่อเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว (หัวเราะ) ผมหยอกๆ คือผมรู้สึกว่ามันแปลกตรงที่เราไม่ได้คลิกกันได้ทุกเรื่อง เราไม่ได้คุยกันได้ทุกเรื่อง เรามีความเห็นไม่ตรงนั้นแต่น่าจะเป็นคำตอบง่ายๆเลยคือ มันอาจจะแค่มีความสุขในการคุยกันมันก็โอเคแล้ว”
มีทะเลาะกันบ้างไหม?
“มีบ้าง การคุยไม่รู้เรื่องของเรา แต่สำหรับผมมันเป็นเรื่องปกติมาก จริงๆ ผมไม่ได้อายุน้อยกันแล้วนะทั้งคู่แค่รู้สึกว่าถ้างานไหนความคิดไม่ตรงกันเราแค่ไม่ทำแค่นั้นเอง”
พอเปิดตัวคนแซวเยอะไหม?
“แซว จริงๆแซวตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนไม่ได้คุยทั้งตอนคุยผมรู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่ารักแต่สิ่งสำคัญที่สุดเลยอาจจะไม่ได้เห็นผมหวือหวามากต้องลงอะไรเยอะเพราะผมรู้สึกห่วงความรู้สึกคนนะ ถึงเราจะมั่นใจในการคุยกันแค่ไหน มั่นใจในความมั่นคงแค่ไหนแต่ผมยังรู้สึกว่ามันมีตัวอย่างให้เห็นหลายๆคู่ตัวผมรู้สึกว่าไม่ต้องหวือหวาอะไรเกิน เพราะเดี๋ยววันนึงพอคุณผิดหวังไปเราเดาไม่ถูกหรอกชีวิตของคนจะเป็นอย่างไรบ้าง รอให้เวลาเป็นตัวที่คอยๆทำให้เห็นมากขึ้นๆดีกว่า”
ณ ตอนนี้เรียกว่าแฟน?
“ผมไม่เคยเรียกแบบนั้นเลย ตัวผมไม่เคยเรียกแบบนั้น แต่สถานะมันเหมือนกัน สถานะมันไม่ต่าง สถานะเหมือนแฟน (ทำทุกอย่างเหมือนแฟนกัน?) เหมือน สำหรับผมเหมือนเรากลับมาคุยกันครั้งนี้ก็คือเหมือนอ่ะ เราต่างคนไม่ได้มีใคร เราคุยกันแค่สองคน แล้วก็คือมันไม่ต่างผมไม่รู้จะพูดยังไง (ยิ้ม)”
แล้วแบบนี้จะให้พาดหัวว่ายังไง?
“จริงๆ วันนั้นเห็นทุกคนพาดว่าเปิดตัว วันนั้นเหมือนน้องๆ มาถามผมในไลฟ์ ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงเลยตอบ จริงๆ สภาพของเราสองคนมันไม่ใช่เด็กที่มากุ๊กกิ๊กแล้ว และสำหรับผมผมว่ามันไม่ต่างจากแฟนแล้วแค่ทุกอย่างใครจะเลือกอะไรก็ได้เลย ผมมีความสุขที่ได้คุยได้เจอ (ชุ่มชื่นหัวใจ?) ดีมากๆครับ”
เราเรียกเขาว่า?
“(ที่รัก) เคยมีเรียกบ้างครับผม (ยิ้ม) น่าจะเรียกตัวเองนะ เขาก็เรียกผมพี่”
มีดราม่าแฟนเขาที่มาเปิดตัวพร้อมกัน?
“ผมเห็นแล้ว ตัวผมก็ได้ไปดูแต่ ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่อง คือทุกคนต้องให้เกียรติกัน แล้วก็ต้องมองว่าถ้าเค้าเป็นคู่ที่น่ารักเราต้องเปิดใจคือทุกคนน่ารักหมด ถ้า ทุกคนได้ทำงานด้วยกันหรือว่า ส่งเสริมการเราก็ต้องให้กำลังใจกันแล้วก็ยินดีกับใคร ผมโตแล้วผมอายุ 30 จริงๆไม่ได้คิดอะไรเรื่องพวกนี้เลย (ยิ้ม)”
คบกันไม่ใช่คอนเทนต์นะคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง?
“ไม่ใช่ๆ ผมเป็นคนไม่โกหกคนอยู่แล้ว เหมือนผมบอกความรู้สึกเราเป็นยังไงก็บอกแบบนั้น เราคุยกันยังไง เราตกลงอะไรกัน เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มันเป็นตามที่ผมบอก”
สาวอกหักทั้งประเทศแล้ว?
“สภาพผมมีคนอกหักด้วยเหรอ (หัวเราะ) ไม่หรอก ผมรู้สึกว่าผมอายุเยอะแล้วและก็ไม่ได้มีคนคุยแบบนี้มานานมากด้วย ผมก็รู้สึกว่าทุกคนก็ยินดีกับพวกเราด้วย (ยิ้ม) เหมือนเวลาผมเห็นคู่ใครเราก็ต้องยินดีกับเขา”
คนนี้มองถึงเรื่องแต่งงานเลยไหม?
“(หัวเราะ) เรื่องแต่งงานต้องดูให้รอดก่อน ต้องให้สองคนอยู่กันรอดก่อน (มองเห็นภาพเขาเป็นเจ้าสาวไหม?) ผมว่าต้องเห็นภาพที่ทำงานคู่กันให้ได้ก่อน ไม่เถียงกันแล้วก็คุยกันรู้เรื่องเคลียร์ทุกอย่างก่อนแล้วอันนั้ก็เป็นเรื่องของอนาคต ตัวผมอาจจะอายุเยอะกว่าเขามากกว่าอาจจะต้องให้เวลาอะไรอีกหลายๆ อย่าง”
ขอบคุณ IG kaykai_ntch